10 เมนูขนมหวาน ของหวานน่ากิน พร้อมสูตรทำขายก็ได้ ทำกินเองก็ดี
ขนมหวานแต่ละชนิดมีวิธีทำและสูตรเฉพาะที่แตกต่างกันออกไป การใส่ใจเรื่องวัตถุดิบและส่วนผสมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้แต่ละเมนูมีรสชาติอร่อยมากยิ่งขึ้น
1. ข้าวเหนียวมะม่วง
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียว 350 กรัม
- กะทิ 1 กระป๋อง
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนชา
- แป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชา
- ใบเตย 4-5 ใบ
วิธีทำ
ขนมหวานคลาสสิกที่กลายเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของไทย ต้องเริ่มจากการนึ่งข้าวเหนียวให้สุก ใส่กะทิในหม้อแล้วตั้งบนไฟอ่อนๆ เติมน้ำตาลและเกลือ เคี่ยวจนละลายเพื่อไม่ให้กะทิเป็นก้อน ใส่ใบเตยลงไป รอจนเดือด หลังจากนั้นเทน้ำกะทิใส่ข้าวเหนียว ปิดฝาทิ้งไว้ราว 15-30 นาที ระหว่างรอให้ทำน้ำกะทิสำหรับราดหน้ามะม่วงไว้พลางๆ เพียงนำน้ำกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ และแป้งไปเคี่ยวไฟอ่อนๆ ปอกมะม่วงสุกใส่จาน นำข้าวเหนียวแช่น้ำกะทิวางขนาบ และตักน้ำกะทิที่เพิ่งเคี่ยวเสร็จราดหน้า พร้อมโรยงาหรือถั่วเหลืองอบแห้งปิดท้าย
2. ขนมชั้นดอกกุหลาบ
ส่วนผสม
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ถ้วย
- แป้งท้าวยายม่อม ½ ถ้วย
- แป้งข้าวเจ้า ½ ถ้วย
- น้ำกะทิ 4 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 2 ถ้วย
- สีผสมอาหาร/สีจากธรรมชาติ
วิธีทำ
นำแป้งท้าวยายม่อม ผสมกับแป้งมันและแป้งข้าวเจ้า ใส่น้ำตาลและน้ำกะทิลงไป นวดให้เข้ากัน หลังจากนั้นเติมกลิ่นและเติมสีผสมอาหารที่ต้องการลงไป (ใช้สีจากธรรมชาติก็ได้ เช่น ใบเตย อัญชัน) อุปกรณ์ที่ต้องมีคือพิมพ์ถาดนึ่งขนมชั้น นำมาทาน้ำมันพืชให้ทั่วเพราะจะช่วยให้แกะขนมชั้นออกจากพิมพ์ถาดได้ง่ายขึ้น เทแป้งผสมสีที่เตรียมไว้ลงในถาดพิมพ์ ปิดฝานึ่งราว 5 นาที เมื่อสุกก็เทแป้งสีอื่นๆ ลงไป ทำสลับกันแบบนี้เรื่อยๆ จนเสร็จ ก่อนจะนำแผ่นขนมมาม้วนและพับตลบเป็นทบๆ ให้เป็นดอกกุหลาบ
3. เต้าส่วน
ส่วนผสม
- ถั่วเขียวเลาะเปลือก
- น้ำเปล่า 3 ถ้วย
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- แป้งเท้ายายม่อม 2 ช้อนโต๊ะ
- แป้งมันสำปะหลัง 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่าสำหรับผสมแป้ง 1 ถ้วย
- หัวกะทิ 1 ถ้วย
- เกลือป่น ½ ช้อนชา
- ใบเตย
วิธีทำ
ล้างถั่วเขียวหลายๆ รอบจนน้ำล้างใส แช่น้ำไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นนำมานึ่งบนผ้าขาวบาง เปิดไฟระดับปานกลาง นึ่งทิ้งไว้ 30 นาที หลังจากนั้นนำใบเตยมัดปมต้มในน้ำเดือดเพิ่มความหอม เติมน้ำตาลทรายลงไป คนจนละลายแล้วค่อยตักใบเตยทิ้ง แต่ปล่อยให้น้ำเชื่อมเดือดต่อไป นำแป้งทั้งสองชนิดมาผสมและคนละลายกับน้ำเปล่า ก่อนจะเทแป้งลงในน้ำเชื่อม คนไปเรื่อยๆ จนกว่าแป้งจะเหนียวใส แล้วจึงนำถั่วเขียวที่นึ่งไว้ใส่ลงไป คนให้เข้ากัน ต้มจนเดือด ตักใส่ถ้วย ราดน้ำกะทิได้เลย
4. กระท้อนลอยแก้ว
ส่วนผสม
- กระท้อน 3-4 ลูก
- น้ำตาล 250 กรัม
- เกลือ 5 ช้อนชา
- น้ำเปล่า (ใช้น้ำลอยดอกมะลิก็ได้)
วิธีทำ
เริ่มจากปอกเปลือกกระท้อน คว้านเมล็ดออก ฝานหรือหั่นให้เป็นแผ่นเล็กๆ นำไปแช่น้ำเกลือเพื่อไม่ให้เนื้อกระท้อนดำ หลังจากนั้นเติมน้ำเปล่าลงในหม้อ นำขึ้นตั้งบนไฟ ใส่น้ำตาลทราย และเกลือเล็กน้อย ต้มจนน้ำเดือด นำเนื้อกระท้อนใส่ลงไป แล้วปิดไฟ (หากต้มนานเกินไป เนื้อกระท้อนจะเปื่อย) แช่ทิ้งไว้สักพักให้น้ำเข้าเนื้อกระท้อน แล้วจึงตักใส่ถ้วย เติมน้ำแข็งลงไปหรือจะนำไปแช่เย็นก็ได้ เป็นเมนูขนมหวานที่เหมาะสำหรับกินในวันที่อากาศร้อนๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่น
5. ฟักทองแกงบวด
ส่วนผสม
- เนื้อฟักทองแก่
- น้ำปูนใส 3 ถ้วย
- น้ำกะทิ 2 ถ้วย
- ใบเตย 2 ใบ
- น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
- เกลือ 1 ช้อนชา
วิธีทำ
เคี่ยวน้ำกะทิบนไฟความร้อนระดับปานกลาง มัดใบเตยและใส่ลงในหม้อเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม เติมน้ำตาลทรายและเกลือ นำฟักทองหั่นขนาดพอดีไปแช่ในน้ำปูนใสเพื่อให้เนื้อไม่เละ หลังจากนั้นใส่ลงในหม้อ ต้มต่อจนสุกแล้วจึงตักใส่ถ้วยพร้อมยกเสิร์ฟ
6. บัวลอยไข่หวาน
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเหนียว 500 กรัม
- หัวกะทิ 5 ถ้วย
- น้ำตาลปึก 1 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- ไข่ไก่
วิธีทำ
นวดแป้งข้าวเหนียวกับน้ำเปล่าจนเนื้อแป้งนิ่มและจับตัวเป็นก้อน ปั้นเป็นก้อนกลมๆ ขนาดเล็ก นำไปต้มจนสุก แป้งจะลอยตัวขึ้นมา ตักขึ้นมาวางพักไว้สักครู่ หลังจากนั้นนำหัวกะทิใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อน เคี่ยวพร้อมกับน้ำเปล่าและน้ำตาลปึก เติมเกลือเล็กน้อย เมื่อน้ำกะทิเดือด ให้ตอกไข่ไก่ลงหมอ รอจนไข่ไก่สุกจึงปิดไฟแล้วตักเสิร์ฟ
7. ข้าวเหนียวแก้วอัญชัน
ส่วนผสม
- ข้าวเหนียว 300 กรัม
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
- น้ำกะทิ 2 ถ้วยตวง
- เกลือ 2 ช้อนชา
- มะนาว
- น้ำดอกอัญชัน
- งาขาว
วิธีทำ
ตั้งหม้อเปิดไฟปานกลาง ใส่น้ำกะทิลงไป ใส่น้ำตาลทราย ใส่เกลือ เคี่ยวให้เข้ากันจนน้ำตาลละลาย หลังจากนั้นเติมน้ำอัญชันลงไป เคี่ยวต่อจนเข้มข้น (หากต้องการให้น้ำอัญชันสีม่วงสวย แนะนำให้บีบน้ำมะนาวผสมเล็กน้อย) ยกน้ำกะทิราดลงบนข้าวเหนียวที่นึ่งจนสุกแล้ว ให้น้ำกะทิซึมข้าวเหนียวจนเป็นสีม่วง ทิ้งไว้ให้เย็น หลังจากนั้นตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ขนาดสี่เหลี่ยม โรยงาขาวเพิ่มความหอม
8. ขนมโค
ส่วนผสม
- แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม
- น้ำตาลแว่น
- มะพร้าวขูด
- เผือกนึ่ง
- เกลือ
- สีผสมอาหาร (ใช้สีจากธรรมชาติก็ได้)
วิธีทำ
ขนมโคเป็นเมนูขนมหวานที่ชาวปักษ์ใต้นิยมกิน มีลักษณะคล้ายบัวลอย แต่ไม่ได้อยู่ในน้ำกะทิ เริ่มขั้นตอนแรกด้วยการผสมสีต่างๆ กับแป้งข้าวเหนียว นวดจนเป็นเนื้อเดียวกัน ปั้นให้เป็นทรงกลมก่อนจะกดเนื้อแป้งให้เป็นแผ่นบาง นำน้ำตาลแว่นขนาดลูกเต๋าวางบนแผ่นแป้ง ห่อให้มิดและคลึงให้เป็นรูปทรงกลม (หากห่อไม่มิดเมื่อน้ำไปต้มไส้จะทะลักออกมา) หลังจากนั้นนำไปต้มในน้ำจนเดือด ตักขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำ คลุกกับเนื้อมะพร้าวขูดที่คลุกเกลือไว้แล้ว เพียงเท่านั้นก็กินอย่างเอร็ดอร่อยได้เลย
9. กล้วยบวชชี
ส่วนผสม
- กล้วยน้ำว้า 1 หวี (เลือกที่สุกจนห่าม)
- กะทิ 2 ถ้วยตวง (หัวกะทิ, หางกะทิ)
- น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
- เกลือ 2 ช้อนชา
วิธีทำ
เริ่มจากหั่นกล้วยตามแนวยาว นำไปต้มในน้ำเดือดแล้วตักขึ้นมาพักไว้ให้เย็น ตั้งหม้อใหม่ใส่หางกะทิ ใส่น้ำตาล เคี่ยวจนละลาย ใส่เกลือ นำกล้วยที่ต้มไว้ใส่ลงไป คนไปเรื่อยๆ เมื่อเดือดให้ใส่หัวกะทิ ต้มต่ออีกสักพักแล้วจึงปิดไป ตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย
10. ลูกเดือยเปียกทรงเครื่อง
ส่วนผสม
- ลูกเดือยแห้ง
- น้ำตาลทราย ½ ถ้วย
- แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- ใบเตย
- เกลือ
วิธีทำ
หากอยากให้ลูกเดือยนิ่มควรแช่ค้างคืน ก่อนจะนำลูกเดือยมาต้มกับน้ำตาล ใส่เกลือ ใส่ใบเตยลงไปเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม หลังจากนั้นใส่แป้งข้าวโพดลงไป คนให้เข้ากัน ต้มต่อจนเหนียวข้น สำหรับน้ำกะทิ สามารถทำได้โดยการนำกะทิและน้ำตาลมาต้ม อาจจะใส่ธัญพืชหรือเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้หวานมันก็ได้ ขอบคุณที่มาของข้อมูล ดูเลยค้าบบบบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น